วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สุขภาพดีเพราะมี ความรัก

เอาใจเดือนแห่งความรัก ก็เลยลงเกี่ยวกับความรักมากหน่อยในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ทิ้งข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพอยู่ดี ความรักกับสุขภาพ ก็เข้ากันได้ไม่แพ้เรื่องอื่นเลยทีเดียว

เริ่มต้นด้วยเรื่องราวจากหนังสือชีวจิต หนังสือสุขภาพที่หลายๆ คนรู้จักดี เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้คุณครูส้ม มีอาชีพเป็นเลขานุการที่ต้องรับผิดชอบงานตลอดทั้งวัน ด้วยความที่เป็นคนค่อนข้างจริงจังกับงานที่ทำ ประกอบกับมีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว ทำให้สุขภาพไม่ดีเท่าที่ควร เธอจึงมีความคิดที่จะดูแลตัวเอง ซึ่งเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายในแบบต่างๆ

“การเป็นเลขานุการต้องวุ่นอยู่กับการนัดหมาย เอกสาร และงานจิปาถะมากมาย ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย ตอนเด็กๆ ก็ป่วยบ่อย และอ้วนมาก โตขึ้นมาเลยดูอ่อนแอ พอถึงจุดหนึ่งเลยคิดว่าต้องดูแลตัวเองแล้วล่ะ จึงหาวิธีการออกกำลังกายให้เหมาะกับตัวเอง แรกๆ ก็เล่นกีฬาหลายประเภทนะคะ แต่ก็ท้อทุกครั้งไป ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างที่ไม่เหมาะกับตัวเอง”

แต่แล้วการแสวงหาสิ่งที่เหมาะสมของครูส้มก็สิ้นสุด เมื่อได้รู้จักกับ “โยคะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอพบรักกับ “สุขภาพ”

“มีเพื่อนคนหนึ่งเอาหนังสือโยคะมาให้อ่าน ก็เลยลองทำตาม แล้วชอบมากๆ เลยค่ะ ได้ยืดเส้นยืดสายบริหารร่างกาย ได้เหงื่อ จิตใจปลอดโปร่งสบาย และสมาธิยังดีอีกด้วย ทำให้รักสุขภาพขึ้นมาเลยค่ะ”

เมื่อความรักสุขภาพก่อตัวขึ้น

ความประทับใจในเบื้องต้นทำให้เธอพยายามเรียนรู้ที่จะฝึกโยคะอย่างจริงจัง เพื่อการดูแลสุขภาพที่ได้ประโยชน์สูงสุด ทำให้เธอได้เข้าใจหลักการฝึกโยคะต่างๆ และสามารถฝึกด้วยตัวเองได้

สุขภาพดีเพราะมี ความรัก

“เมื่อมีคอร์สเปิดสอนก็เลยไปเรียนจนเกิดชำนาญ แล้วนำมาฝึกเองที่บ้านทุกวัน ตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ บางวันก็เล่นตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่ถ้าเหนื่อยมากก็จะงด นอนจนเต็มที่แล้วค่อยตื่นมาฝึก”

“ต้องมีวินัยในตัวเอง จึงจะส่งผลดี วันไหนมีเวลาจะเล่นนานหน่อย แต่ถ้ามีเวลาน้อยก็จะเล่นเท่าที่มีเวลาค่ะ”

ส่วนท่าโยคะที่เธอเล่นจะสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งท่ายืนและท่านั่ง ท่าเบาและท่าหนัก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดครบทั้งระบบภายใน และอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย

“ถ้าวันไหนเหนื่อยมากและอยากได้เรื่องสมาธิกับจิตใจ จะเล่นท่าเบาๆ ค่ะ เช่น ท่าแมว ท่าสุนัข ท่างูเห่า ท่าต้นไม้ และท่าสุริยนมัสการ แต่ถ้าวันไหนไม่เหนื่อยมากก็จะเล่นท่าหนักๆ ไปเลย เช่น ท่าสะพานโค้ง ท่ายืนบนไหล่ ท่าคันไถ และท่านักรบเริงระบำ หลังฝึกเสร็จก็จะจบด้วยท่าศพทุกครั้งเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย”

การเล่นโยคะเป็นประจำทำให้สุขภาพของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน

“หลังจากเล่นโยคะมา 5 ปี สุขภาพดีมากไม่เคยเป็นหวัดแม้ว่าจะตากฝน ระบบขับถ่ายก็ดี แถมยังได้เรื่องผิวพรรณด้วย เพราะโยคะจะมีท่าก้ม ท่าฝึกปราณ ท่าเหยียดยืด ทำให้เลือดไหลเวียนดี ที่เห็นผลชัดมากคือผอมลง เพราะรับประทานได้น้อยลง และที่ดีมากๆ อีกอย่างคือตะคริวที่เคยเป็นประจำหายไป นอกจากนี้ยังส่งผลต่อจิตใจด้วย เพราะขณะฝึกเราได้รวบรวมสมาธิ ผ่อนคลายใจ ทำให้หน้าตาเราดูดีสดชื่นแจ่มใสตลอดเวลา ได้ประโยชน์ทั้งสุขภาพและความงาม”

Credit : http://beauty.vwander.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น