วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รอยฟกช้ำ บวม ทำไมต้องรีบใส่ใจ

คงไม่มีใครอยากให้ตัวเองเกิดอุบัติเหตุแม้แต่สักครั้งในชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณอาจะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

ตั้งแต่เดินสะดุดหกล้ม โดนประตูหนีบ หรือชนโต๊ะโครมเบ้อเร่อด้วยความไม่ตั้งใจ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะตามมาด้วยอาการบาดเจ็บไม่มากก็น้อย ผลจากอุบัติเหตุที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ อาการฟกช้ำดำเขียว ปวดบวมห้อเลือด จากการถูกบีบอัด หรือกระทบกระแทกอะไรแรงๆ

ที่เป็นแบบนั้นเพราะเมื่อส่วนของร่างกายเราไปกระแทกกับอะไรบางอย่างด้วย ความแรงนั้น จะทำให้เนื้อเยื่ออ่อน หลอดเลือดดำเล็กหรือหลอดเลือดฝอยได้รับบาดเจ็บ จนเลือดซึมออกมาใต้ผิวหนัง เห็นเป็นรอยเขียวช้ำ ร่วมกับอาการเจ็บปวดและอักเสบ บางคนที่ผิวหนังเปราะบางยิ่งมีโอกาสเกิดรอยฟกช้ำได้ ง่ายขึ้น เพียงชนอะไรนิดเดียวผิวหนังก็ช้ำเป็นรอยแล้ว หากเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงก็ยิ่งจะทำให้อาการเจ็บปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น แล้วถ้าเวลาผ่านไปภายใน 2 สัปดาห์ รอยฟกช้ำยังคงอยู่นั้น ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรพบแพทย์ให้ช่วยตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว

แม้ว่าปกติแล้วร่างกายคนเราจะมีกระบวนการรักษาตัวเองตามธรรมชาติเพื่อ บรรเทารอยช้ำเหล่านี้ให้หายได้เอง โดยมีการละลายของเลือดที่ออกมาใต้ผิวหนัง ทำให้สีเข้มค่อยๆจางลงทีละน้อย แต่อาจนานถึง 2-3 สัปดาห์ ระหว่างนั้นอาการเจ็บปวดช้ำบวมเหล่านี้ย่อมเป็นอุปสรรค ในการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณไม่มากก็น้อย อาจทำให้คุณเจ็บปวด หรือร่างกายเคล็ดขัดยอก เดินเหินได้ไม่สะดวกอย่างปกติ เราจึงควรใส่ใจดูแลอาการบาดเจ็บเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มแรกของการประสบเหตุ เพื่อที่จะได้ทำให้อาการเจ็บปวดช้ำบวมให้กลับสู่สภาพปกติเร็วขึ้น โดยการประคบด้วยความเย็น เช่น ผ้าห่อก้อนน้ำแข็งเพื่อลดบวม แต่หากทิ้งช่วงไปแล้ว รอยฟกช้ำยังปรากฏอยู่ควรประคบด้วยน้ำอุ่น จะทำให้เลือดที่ออกใต้ผิดหนังละลายตัวได้ดี ช่วยให้รอยฟกช้ำจางหายไปได้ หากมีอาการปวดมากอาจต้องรับประทานยาแก้ปวดร่วมด้วย

หาก ต้องการให้อาการเจ็บปวดและรอยฟกช้ำหายได้เร็วขึ้น ควรใช้ยาทาภายนอกที่บรรเทาอาการฟกช้ำ ปวดบวมเฉพาะที่ตั้งแต่ช่วงต้นของการบาดเจ็บ ก็จะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นให้ผ่อนหนักเป็นเบา และหายเป็นปกติได้เร็วขึ้น

Credit : http://www.thai-healthcare.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น